วิธีการใช้งาน Internet Browser,Messenger,File Browserและ USB Device บน Linux mint9.0

1. การใช้งาน Internet Browser

เข้าที่ Menu ->Internet->Firefox web browser

เข้ามาแล้วจะปรากฏหน้าต่าง Firefox web browser

หมายเลข1 เราสามารถใส่ URL ของ website ที่เราต้องการเข้าชม

หมายเลข2 เราสามารถใส่ข้อความที่เราต้องการหา ใน google search

2.การใช้งาน Messenger 

ในที่นี้เราเลือกการใช้งาน Messenger ของ Pidgin ซึ่งเป็นโปรแกรม Messenger ที่ใช้งานง่ายและถูกติดตั้งลงบน Linux mint 9.0 ไว้เรียบร้อยแล้ว

คุณสมบัติ

การติดตั้ง : windows,linux และ UNIX อื่นๆ

เครือข่ายที่รองรับการใช้งาน  :AIM, ICQ, Google Talk,Facebook, Jabber/XMPP,MSNMessenger,Yahoo!, Bonjour, Gadu-Gadu, IRC, Novell GroupWise Messenger, QQ, Lotus Sametime, SILC, SIMPLE, MySpaceIM, and Zephyr.

คุณสมบัติการทำงาน : ส่งไฟล์-รับไฟล์ ,ตั้งค่าโต้ตอบเมื่อเวลาเราไม่อยู่ ,การสนทนาแบบใช้ emoticon (เช่นเดียวกับของ window live messenger )

เข้า Menu ->Internet->Pidgin Internet Messenger

 เมื่อเข้ามาแล้วจะมีให้เรา Add Account  กดที่ Add

เมื่อกดเข้ามาจะมีให้เราใส่ในส่วนของ รูปแบบ Protocol ที่เราต้องการใช้งาน

ให้เรากรอก Username ให้ตรงกับ protocol ที่เราเลือก password ก็ต้องเป็น protocol นั้นๆด้วย ในที่นี้ ผมใช้ protocol ของ Window live

Protocol ที่มีให้เลือก :AIM, ICQ, Google Talk,Facebook, Jabber/XMPP,MSNMessenger,Yahoo!, Bonjour, Gadu-Gadu, IRC, Novell GroupWise Messenger, QQ, Lotus Sametime, SILC, SIMPLE, MySpaceIM, and Zephyr.

ในที่นี้ผมใช้ protocol ของ window live (MSN) เมื่อกรอกข้อมูลครบ กด Add

เราสามารถเพิ่มAccount ได้

เมื่อ Login เข้าใช้งาน จะมีลักษณะ เหมือนกันกับ Window live Messenger

(หากเราเลือก Protocol หน้าต่างของการทำงานก็จะเหมือนกับ protocol นั้นๆ)

3.การใช้งาน file browser 

สร้าง Folder ชื่อ RC Car (สร้างเพื่อใช้ทดสอบ File Browser ในการค้นหา)

เข้า Menu -> Accessories ->เลือก Search File

เมื่อเข้ามาแล้ว

ช่อง Name contains จะให้เราใส่ ชื่อของ folder หรือ ชื่อ File ที่เราต้องการค้นหานั่นเอง

ช่อง Look in Folder ในช่องนี้จะให้เราเลือก พื้นที่ที่เราต้องการหาซึ่งจะมีตัวเลือกมากมายเช่น Desktop computer หรือ folder ย่อยต่างๆ

เมื่อเราใส่ข้อมูลครบให้กดที่ Find ระบบก็จะทำการค้นหาทันที

เมื่อค้นหาเสร็จตำแหน่งที่เราต้องการหาจะปรากฏใน Search results และจะมีการแจ้งจำนวนที่ค้นพอ เราสามารถกดเปิดไฟล์จากการแสดงผลได้ทันที

4.การใช้งาน USB Device บน Linux mint 9.0

เมื่อเราเข้าใช้งาน vm ware จะมีการแจ้งเตือน USB device ที่ค้นพบ

เมื่อชี้มาที่ มุมด้านขวาล่างจะมี USB Device ที่ใช้อยู่ แต่ USB นั้น ถูกใช้อยู่บนเครื่องคอมเราไม่ได้ถูกใช้บน Vm ware ดังนั้น คลิ๊กขวา เลือก Connect

เมื่อเลือก Connect จะมีข้อความแสดง Unplugged from host เพื่อที่จะ Connect มายัง Vm ware และบน computer จะมองไม่เห็น USB เนื่องจากถูกตัดเข้ามาใช้บน Vm ware แล้วนั่นเอง

เมื่อเปิดที่ Computer ก็จะแสดงว่า USB นั้นถูกเชื่อมต่อแล้ว

หากเราต้องการใช้งานบน Computer ก็คลิ๊กขวาที่มุมขวาล่าง ตรง USB เลือก Disconnect(Connect to host ) เพื่อไป เชื่อมต่อยังเครื่องเรานั่นเอง

Credits : 53217022 อณัฐชา ทับแว่ว 

การตั้งค่าให้กับ Linux Mint 9.0 เบื้องต้น

1.การตั้งค่า Screen resulotion และ Background

เข้า Menu ->Monitors

เลือกค่าที่ต้องการจากนั้นกด Apply

 การตั้งต่า Background
 คลิ๊กขวาที่ desktop เลือก Change Desktop Background

จะมีให้เลือก อยู่ หลากหลายรูปแบบ เพียงแค่คลิ๊กเลือก Background ที่เราต้องการ ก็จะทำการเปลี่ยนทันที ตรง Colors เราสามารถเลือกโทนสีได้

การตั้งค่าภาษาให้กับแป้นพิมพ์
1.เข้ามาที่ Menu->Preference>Keybord

 เมื่อเข้ามาแล้วจะมีให้เราเลือกติดตั้งแบบ By Country และ By Language

                                                                        ตัวอย่างตั้งค่าแบบ By country

                                                                     ตัวอย่างตั้งค่าแบบ By Language
ในช่องของ Variants จะให้เราเลือกรูปแบบของตัวอักษร ในที่นี้ผมเลือก Thailand TIS-820.2538

การตั้งค่า Time Zone (clock)ให้กับ Linux
1.คลิ๊กที่ มุมด้านขวาล่าง (เวลาและวันที่)เลือก Preference

จะมีให้เราเลือก Time zone ให้เราเลือกว่า Thailand 

 จะมีการจัดเก็บข้อมูล Timezone ไว้ และมีการบอกเส้นลองติจูดและเส้นละติจูดด้วย

ในภาพนี้เป็นการเลือก ประเภทของหน่วยองศา ว่าจะเลือกแบบ องศาเซลเซียน,ฟาเรนไฮท์.เคลวิน

 ในภาพเป็นการตั้งค่าเวลา(จำนวน ช.ม.) และให้เราเลือกว่าต้องการแสดงอะไรบ้างบนแถบ desktop ด้านขวาล่าง

                                           ในภาพ เป็นการเลือกหน่วยของความเร็วลม

ในภาพเป็นการเลือกวันที่

การตั้งค่า Proxy

เข้าไปที่ Menu >Preference>Network Proxy

ให้เราเลือก Manual proxy configuration

และให้เราในค่าของ HTTP proxy ที่เราต้องการเซ็ทเข้าไป

เมื่อใส่ค่าครบแล้วให้กด Apply System Wide..

เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

การเปลี่ยนรหัสผ่านให้กับ User

เข้าที่ Menu > Administration>Users and Groups

 เมื่อเข้ามาแล้วให้เราเลือก Add ก็จะมีให้เราใช่ชื่อของ User

 ทำการใส่ชื่อของ User

 หากเราใส่ password สั้นเกินไป จะมีการแจ้งเตือนว่าควรใส่มากกว่า 6 หลัก

เมื่อสร้าง User ขึ้นมาแล้วให้เรากดที่ Change

ทำการกรอก Password ให้มากกว่า 6 หลัก

เสร็จแล้วกด Ok

เมื่อสร้าง User เสร็จเรียบร้อยแล้ว หากต้องการเปลี่ยน Password ให้กดที่ Change ตรง Password

ก็จะมีให้ใส่ Password อันเก่าและป้อน Password อันใหม่เข้าไปจากนั้นกด Ok ก็จะเสร็จสิ้น



การติดตั้ง Program

ในที่นี้ผมของติดตั้ง Web Browser  ก็คือ Google Chrome

 เข้าไปทำการ Download Setup มาเก็บไว้ใน Directory

 เมื่อโหลดเสร็จให้ทำการ Install

 ก่อนทำการ Install จะมีให้เราใส่รหัสของ Admin ของเรานั่นเองเพื่อยืนยันการเข้าไปทำงานและการเปลี่ยนแปลงค่าต่างๆใน Linux

เมื่อทำการติดตั้งเสร็จก็จะเสร็จสิ้นและก็จะสามารถเข้าไปใช้ Google Chrome ได้

นาย อณัฐชา  ทับแว่ว

53217022

Mint 9.0

Mint 9.0  เป็นระบบปฏิบัติการ Linux - based สามารถใช้ Mint 9.0 แทนระบบปฏิบัติการอื่น ๆ เช่น Microsoft Windows ™หรือ Mac OS X ™ เพราะ Mint 9.0 เป็นระบบปฎิบัติการที่สามารถโหลดใช้งานได้ฟรีและสามารถเซ็ทค่าการทำงานเป็นภาษาไทยได้จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มศึกษาการใช้ Linux

 Mint 9.0 เป้นการออกแบบโดยยึด base ของ Ubuntu มาพัฒนาต่อ และ Mint 9.0 มีความสามารถต่างๆมากมายเช่น สามารถคำนวน ความเสี่ยงในการเดารหัสผ่านเข้าทำงานของ user ได้ ทำให้เรารู้ว่าควรตั้ง Password อย่างไรให้เหมาะสม เพื้อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้ามาใช้รหัสเราใรทางที่ไม่ดีดังนั้น Linux Mint 9.0 จึงเป็นระบบปฏิบัติการหนึ่งที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มการใช้ Linuxนั่นเอง

ขั้นตอนการติดตั้ง Mint 9.0



ขั้นที่1 เปิดโปรแกรม Vm Ware ขึ้นมา แล้วเลือก file>new>VirtualMachine

ขั้นตอนที่2 จะมีวิธีการติดตั้งอยู่ 2 ลักษณะ คือ Typical  ลงแบบง่าย Custon  สำหรับผู้เชี่ยวชาญต้องการจะปรับระบบต่างๆแต่เราจะเลือก Typical เพราะจะง่ายสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้ Vm ware

ขั้นตอนที่3 โปรแกรมจะถามเราว่าจะติดตั้งจากที่ไหนจะมีให้เลือก คือ

     Installer disc สำหรับผู้ที่ต้องการติดตั้งจากแผ่นดิส

    Installer disc image file (iso) ต้องการติดตั้งจาก ไฟล์ที่จำลอง ของ cd หรือ dvdที่เรา โหลดมา เป็นไฟล์.iso หรือ image ไฟล์นั่นเอง

ในที่นี้ผมเลือก Installer disc image file (iso) จากนั้นคลิ๊ก next

ขั้นตอนที่ 4 ขั้นตอนนี้จะมีให้เราเลือกOS ที่ใช้ลง เลือก ที่ Linux เพราะOS ที่เลือกนั้นจะมีผลต่อการทำงานกับโปรแกรมที่เราจะลง และจะมีให้เลือกด้านล่างว่าจะเลือกการติดตั้ง เลือก Ubutu เพราะว่า Mint 9.0 นั้นเป็นการยึด base เดิมของ Ubuntu นั่นเอง จากนั้นกด next

ขั้นตอนที่ 5 จะมีการถามว่าเราต้องการตั้งชื่อว่าอะไร จะติดตั้งไว้ที่ใด เมื่อตั้งชื่อและเลือก location ได้แล้ว กด Next

ขั้นตอนที่ 6 จะมีให้เราเลือกการใช้พื้นที่ใน hard disk ในที่ นี้ Mint 9.0 ต้องการพื้นที่ในการติดตั้ง 20 GB และจะมีให้เราเลือกว่า

Store virtual disk as a sing file คือเก็บไว้เป็นไฟล์เดียว และ

Spilt virtual into muntiple file คือการเก็บแบบแยกไฟล์

ให้เลือก Store virtual disk as a sing file เลือกแล้วกด Next

ขั้นตอน 7 จะแสดงค่าต่างของระบบที่เราตั้งค่าไว้ (หากต้องการเปลี่ยนแปลงค่าให้ กด เข้าไปที่

Customize Hardware)

หลังจากนั้นกด finish

รอสักครู่นะครับ ระบบกำลังดำเนินการ Boot ระบบ

ขั้นตอนนี้จะเข้ามาสู่หน้าจอซึ่งเป็นเพียงแค่การทดลองใช้ ให้กด click ที่ Install to hard drive

ขั้นตอนที่ 8 จะให้เราเลือกภาษาที่ใช้ในการติดตั้ง ผมเลือก ภาษาไทยเพื่อให้ง่ายต่อการแปลครับ

ขั้นตอนที่ 9 เมื่อเราเลือกภาษาที่ใช้ในการติดตั้งแล้ว ก็จะมีการตั้งค่านาฬิกาซึ่งเป็นเวลาที่เป็นแบบ Time zone

ขั้นตอนที่ 10 เมื่อเราอัพเดท time zone เสร็จจะมีให้เราเลือกว่าเราอยู่ที่ไหนให้เราเลือก Thai เพราะเวลาที่จะถูกตั้งนั้นจะได้ตรงกับเวลาจริง

ขั้นตอนที่ 11 จะมีให้เรากำหนดว่าต้องการตั้งค่าแป้นพิมพ์แบบไหน ให้เลือก ตัวเลือกที่แนะนำ thailand จากนั้นกด ถัดไป

ขั้นตอนที่ 12 เป็นขั้นตอนการจัดเตรียมพื้นที่ disk จะมีอยู่ 2 ตัวเลือก คือ

 ลบและใช้พื้นที่ disk ทั้งหมด และ กำหนดพาติชั่นขั้นสูง ให้เลือก ลบและใช้พื้นที่ disk ทั้ง จากนั้นกด ถัดไป

ขั้นตอนที่ 13 เป็นการตั้งชื่อของผู้ใช้งานหรือชื่อที่เข้าใช้ระบบนั่นเอง มีช่องให้ใส่รหัสผ่าน รหัสผ่านที่เราใส่เข้าไปนั้น ระบบจะมีการประมวลผลและแจ้งเตือนว่า รหัสผ่านของเรา ยาก-ง่าย ในการเดามากน้อยเพียงไร เมื่อใส่รหัสผ่านเสร็จแล้ว จะมีการตั้งชื่อให้กับคอมพิวเตอร์ หลังจากนั้นกด ถัดไป

ขั้นตอนที่ 14 จะเป็นการแสดงค่าทั้งหมดที่เราได้ตั้งไว้ จากนั้นกด ถัดไป

ขั้นตอนที่ 15 ขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนการติดตั้งระบบ รอสักครู่ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

ขั้นตอนที่ 16 เมื่อติดตั้งจะเสร็จเรียบร้อยแล้วระบบจะถามเราว่าให้ ใช้งานเลยหรือจะเริ่มระบบใหม่ให้เลือก เริ่มระบบใหม่เพื่อที่จะทำให้ระบบของเราถูกตั้งค่าที่แน่นอและเป็นการ boot ระบบใหม่เพื่อประสิทธิภาพในการประมวลผล

Credit นาย อณัฐชา ทับแว่ว 53217022